>>> บทความ : ถูกฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตร
>>> บทความ : ถูกฟ้องล้มละลาย
>>> บทความ : ถูกฟ้องคดีหมิ่นประมาท
>>> บทความ : ถูกฟ้องเรื่องบ้าน
>>> บทความ : ถูกฟ้องศาลเรื่องรถยนต์
>>> บทความ : ถูกฟ้อง หนี้ บัตรเครดิต
เราสามารถถูกฟ้องเป็นจำเลยได้ทั้งในคดีอาญาและคดีแพ่ง
กรณีถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีแพ่ง
จะมีหมายนัดของศาลมากับสำเนาคำฟ้อง ในกรณีเป็นคดีแพ่งสามัญ หากว่าท่านรับหมายด้วยวิธีธรรมดาท่านจะต้องยื่นคำให้การภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับหมายนั้น
หากว่าท่านรับหมายโดยการปิดหมาย ท่านจะต้องยื่นคำให้การภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้ปิดหมายนั้น
หากท่านไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนดท่านก็จะเป็นจำเลยผู้ขาดนัดยื่นคำให้การ ผลเสียจะตกกับตัวท่านเองคือไม่สามารถ ยกข้อต่อสู้ขึ้นอ้างต่อโจทย์ได้
หากท่านถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญา
เมื่อท่านได้รับหมายคดีอาญาและสำเนาคำฟ้อง ให้ดูว่าศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันใด(กรณีผู้เสียหายหรือโจทก์ฟ้องตรงต่อศาล) ท่านก็เตรียมไปในวันนั้น อย่าลืมแต่งตั้งทนายความไปด้วย เพราะในวันไต่สวนมูลฟ้องศาลท่านจะไต่สวนดูว่าคดีมีมูลหรือไม่ถ้า หากคดีมีมูลก็จะประทับรับฟ้อง
ส่วนในคดีอาญาคำให้การสารภาพหรือปฏิเสธยังไม่ต้องยื่นในวันไต่สวนมูลฟ้องไว้ยื่นในวันนัดสอบคำให้การทีเดียว แตกต่างกับคดีแพ่ง ในคดีอาญาไม่มีจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
คำให้การในคดีอาญา ถ้าท่านปฏิเสธสามารถปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลได้ คือปฏิเสธดื้อๆเลย แต่ในคดีแพ่งการปฏิเสธต้องมีเหตุผล มันมีความแตกต่างกันอย่างนี้
การที่ท่านถูกฟ้องในคดีแพ่ง หรือคดีอาญาจึงต้องตั้งต้นที่นำคำฟ้องมาให้ทนายดู จะได้ช่วยกันวิเคราะห์และหาทางแก้ไข ถ้าทนายไม่เห็นสำเนาคำฟ้องพูดอะไรมากไม่ได้ ก็แค่ให้คำปรึกษาเบื้องต้นได้เท่านั้น
ในคดีแพ่งท่าน ดูดีๆ ถ้าเป็นคดีแพ่งสามัญต้องยื่นคำให้การภายใน 15 วันหรือ 30 วัน (แล้วแต่วิธีการรับหมาย) ดังนั้นเมื่อท่านได้รับหมายศาลหรือถูกฟ้องหย่าเฉยหรืออย่านิ่งนอนใจให้รีบหาทนายความเข้ามาช่วยดูแลคดี จะได้ไม่เสียเปรียบและจะได้เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายอย่างถูกต้องด้วย

โดนฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตร

โดนฟ้องล้มละลาย

โดนฟ้องเรื่องบ้าน
