ข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง ค่าปรับ

ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ทำให้ผู้อื่น เสียชื่อเสียง มีค่าปรับเท่าไหร่ หลายคนคงอยากจะทราบ เพราะเมื่อเป็นคดีความขึ้นมาก็คงจะกังวลใจอยู่ไม่น้อย เป็นคดีอาญาเสียด้วย

ข้อหา หมิ่นประมาทคนอื่น เสียชื่อเสียง แล้วจะปรับเท่าไหร่

ถ้าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา 326 ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

แต่อย่าลืมว่า หากเราหมิ่นประมาท ผู้ที่มีชื่อเสียงมาก การที่เราโพสทำให้เขาเสียหาย มูลค่าความเสียหายของเขาคนนั้น อาจจะเยอะมากย่อมไม่เท่าคนธรรมดา

เช่น ทำให้เขาเสียชื่อเสียงและถูกยกเลิกงานหรือลูกค้าไม่มาใช้บริการ ความเสียหายมันจะเยอะแน่นอน การที่ศาลจะปรับเท่าไหร่ ตามกฎหมายนี้ไม่เกิน 20,000 บาท แต่เขาอาจ ฟ้องแพ่งในข้อหาละเมิด ทำให้เสียชื่อเสียง และเรียกค่าความเสียหายได้ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของโจทก์

ข้อหานี้เกิดได้ยังไง

ข้อหาหมิ่นประมาททางอาญา เกิดจากการเราไปโพสต์ข้อความ ป่าวประกาศทาง facebook หรือทางโซเชียลมีเดียอื่น ทำให้คนอื่นหรือบุคคลที่ 3 ได้รู้ข้อความนั้น มีความผิดอาญาหมิ่นประมาท และยังมีความผิด ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ด้วย และอาจมีความผิดข้อหา หมิ่นประมาทโดยโฆษณาอีกด้วยก็ได้

นี้เป็นกระทำความผิดกรรมเดียว(ทำครั้งเดียว) แต่ผิดกฎหมายหลายบท หลายมาตราหลายเรื่อง การลงโทษจะลงบทหนักที่สุด คือกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษหนักนั่นเอง

องค์ประกอบความผิดของ การหมิ่นประมาท

การหมิ่นประมาท เป็นการเจตนา(รู้ตัวขณะกระทำความผิด) ใส่ความผู้อื่น ต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ถ้าข้อความนั้นคนอื่น ไม่เชื่อว่าจะเป็นความจริง ไม่ผิดหมิ่นฐานประมาทตาม มาตรา 326

ตัวอย่างเช่น ใส่ความว่าเป็นควาย ในลักษณะแบบนี้ไม่เข้าองค์ประกอบหมิ่นประมาท โดยปกติแล้วหมิ่นประมาท จะเป็นเรื่องที่กล่าวถึงดังต่อไปนี้ ตัวอย่างเช่น การทำผิดศิลธรรม การบอกว่าคนๆนี้รับเงินใต้โต๊ะ หรือผู้ชายคนนี้เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น เป็นต้น

โดนฟ้องหมิ่นประมาท ทําให้เสียชื่อเสียง ค่าปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญาไม่เกิน 20,000 บาท แต่ถ้าเป็นคนมีชื่อเสียงมาก ถูกหมิ่นประมาท เขาเสียชื่อเสียง เสียหายเยอะ ท่านอาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้เขา อีกเป็นได้ถ้าหากโจทก์พิสูจน์ว่าเสียหายจริง เช่น เป็นนักร้องดังมีรายได้ปีละเป็น ร้อยล้านบาท ถ้าเราไปหมิ่นประมาทคนแบบนี้ เราก็จะต้องชดใช้เยอะ ดังนั้นก่อนจะทำคิดให้ดี

กรณีเป็นโจทก์ในการดำเนินคดีหมิ่นประมาท

1.แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ทำคดียื่นต่ออัยการอัยการ ทำการตรวจสอบสำนวนและยื่นฟ้องต่อศาล
2.จ้างทนายฟ้องคดีต่อศาล วิธีนี้ใช้เวลารวดเร็วกว่า

กรณีเป็นจำเลย

1.คดีอยู่ในขั้นตอนไหน ถ้าในชั้นตำรวจได้รับหมายเรียกหรือยัง ถ้าในชั้นศาลได้รับสำเนาคำฟ้องหรือยัง
2.กรณีที่ได้รับสำเนาคำฟ้อง โจทก์ฟ้องมาว่าอย่างไร ข้อความใดเป็นจริง ข้อความใดที่เราเห็นว่าไม่จริง จะได้เขียนคำให้การปฏิเสธได้

คำแนะนำ ถ้าไม่อยากมีคดีติดตัว

ก่อนที่จะ โพสต์อะไรโดยเฉพาะใน Social Media เช่น Facebook เอาข้อความนั้นพาดพิงถึงผู้อื่นทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและมีบุคคลที่สามารถอ่านข้อความนั้น แค่นี้ก็เข้าองค์ประกอบความผิดแล้ว ก่อนที่จะทำอะไรให้คิดมากๆเพราะมันมีเรื่องที่ทำให้เราก็ทำผิดกฎหมายได้โดยง่าย

บางครั้งท่านเห็นบทความที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายและท่านได้อ่านและแชร์บทความนั้นใน Facebook ก็เข้าฐานความผิดนี้เช่นเดียวกัน

ย้ำเตือนครั้งสุดท้าย ข้อหาหมิ่นประมาทเกิดขึ้นได้โดยง่าย ในปัจจุบันเนื่องจากการใช้โซเชียลมีเดีย และมีการโพสต์ข้อความให้บุคคลที่สามเห็น

อนึ่งแล้ว เนื่องจากข้อหานี้เป็นข้อหาอาญา จึงต้องมีการประกันตัวด้วย สอบถาม เช่าหลักทรัพย์ประกันตัว ล่วงหน้าด้วย