มีคนถามว่าศาลตัดสินแล้ว ประกันตัวได้ไหม ในคดียาเสพติด ถ้าถามแค่นี้ เราอาจยังตอบไม่ได้ชัดเจนนัก แต่จะมาเล่าให้ฟัง
ปกติเมื่อโจทก์ทำการยื่นฟ้องจำเลยต่อศาล เบื้องต้นจะยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมในศาลชั้นต้น ซึ่งยื่นฟ้องในเขตอำนาจศาล เมื่อศาล ประทับฟ้องแล้วจากนั้นก็จะดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน
สำหรับในวันนัดสอบคำให้การ จำเลยมีสิทธิ์จะให้การสารภาพหรือปฏิเสธก็ได้แล้วแต่ ตามพยานหลักฐานที่ฝั่งตนเองคิดว่ามีอยู่
ต่อมาเมื่อนัดสืบพยานหลักฐาน ศาลจะให้ทำการสืบพยานโจทก์และสืบพยานจำเลย เมื่อทำการสืบพยานโจทก์และจำเลยเสร็จแล้ว ก็จะนัดมาฟังคำพิพากษา
สำหรับ เมื่อศาลทำคำพิพากษาเสร็จแล้วก็จะ นำมาอ่านและลงวันที่ทำคำพิพากษาให้เรียบร้อย ซึ่งถือว่าศาลตัดสินแล้ว
สำหรับในคดียาเสพติดก็เป็นคดีอาญาประเภทหนึ่งก็มีขั้นตอนพื้นฐานเหมือนกัน กับที่ได้อธิบายมาเบื้องต้น คนก็จะถามว่าเมื่อศาลตัดสินแล้ว ประกันตัวได้ไหมคดียาเสพติด
เรามีคำตอบว่าศาลตัดสินแล้ว ประกันตัวได้ไหม ดังนี้
1. หากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และยังไม่ พ้นระยะเวลา 30 วันนับจากวันมีคำพิพากษา สามารถอุทธรณ์หรือฎีกาได้ในศาลชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาและสามารถประกันตัวได้
2. ถ้าหากมีการขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไป สามารถดำเนินการประกันตัวได้
3. แต่ถ้าหากคดีถึงที่สุด เช่นศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 10 ปี และพ้นระยะเวลา 30 วันนับจากมีคำพิพากษาและ คดีถึงที่สุดโดยที่หรือจำเลยไม่ได้ขยาย ระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ออกไป หมายความว่าโทษพิพากษาจำคุกจำเลย 10 ปีที่ศาลสั่งไว้จะมีผลโดยทันที และไม่สามารถประกันตัวต่อไปได้
4. การประกันตัวนั้น เมื่อศาลตัดสินแล้วเรามีสิทธิ์ขอยื่นประกันตัวชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์ แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ อันนั้นเป็นเหตุอันไม่อาจก้าวล่วง เพราะอาจจะมีสาเหตุต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก็ได้ เช่น เป็นคดีอุกฉกรรจ์ หรืออาจมีการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือหลักทรัพย์ที่นำมาประกันตัวไม่น่าเชื่อถือ หรือมีมูลค่าไม่เพียงพอ หรือโจทก์อาจค้านการประกันตัวก็ได้
ดังนั้นเบื้องต้นจึง อยากบอกว่า เมื่อศาลตัดสินแล้วถ้าคดียังไม่ถึงที่สุดสามารถยื่นประกันตัวให้กับจำเลยต่อไปได้ในชั้นอุทธรณ์หรือชั้นฎีกา แต่เมื่อยื่นแล้วจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งอันนั้นต้องประเมินกันเอง
>>> ปรึกษาทนาย